หลายคนอาจรู้สึกสับสน จำผิดจำถูกว่า เมนูกาแฟแต่ละเมนูแตกต่างกันอย่างไร ทั้งที่หน้าตาก็คล้ายๆ กันไปหมด ปัญหานี้จะหมดไปอย่างแน่นอนถ้าเราเข้าใจถึงส่วนประกอบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังจะช่วยให้เราเลือกรสชาติของกาแฟที่ชอบได้อีกด้วยนะ
Espresso เป็นคำในภาษาอิตาเลียน มีความหมายว่า “เร่งด่วน” เป็นจุดเริ่มต้นของกาแฟทุกเมนู รสชาติเข้มข้น ชงโดยใช้แรงอัดของไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบด โดยใช้กาแฟประมาณ 7 กรัม สกัดน้ำกาแฟออกมาในปริมาณ 30 มล. เสิร์ฟร้อนเท่านั้น โดยจะเสิร์ฟเป็นช็อตแบบไม่เติมน้ำตาลหรือนมเพิ่ม
กาแฟที่มีความเข้มข้นสูงซึ่งอาจได้ยินในชื่อ Double Espresso เนื่องจากประกอบไปด้วยเอสเพรสโซ่ 2 ช็อต ใช้กาแฟประมาณ 14 กรัม สกัดน้ำกาแฟออกมาในปริมาณ 60 มล.
เปรียบได้กับเอสเพรสโซ่ครึ่งช็อต ใช้เมล็ดกาแฟคั่วบดปริมาณเท่ากันแต่ใช้น้ำน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ได้กาแฟที่มีความเข้มข้นสูงมาก ใช้กาแฟประมาณ 7 กรัม สกัดน้ำกาแฟออกมาในปริมาณ 15 มล.
เริ่มด้วยการนำเอสเพรสโซ่ช็อตใส่ในแก้วแล้วเติมน้ำร้อนในอัตราส่วน 1:2, 1:3 หรือ 1:4 เพื่อเจอจาง จึงเป็นเมนูสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกาแฟรสเข้มเกินไปและไม่ชอบเติมนมหรือครีมใดๆ
เมนูกาแฟพี่น้องของอเมริกาโน่ โดยอาจจะต่างกันที่อัตราส่วนของเอสเพรสโซ่ช็อตและน้ำร้อน แต่ที่สำคัญคือการนำน้ำร้อนใส่ลงในแก้วก่อน แล้วจึงเติมเอสเพรสโซ่ช็อตตามลงไป จึงทำให้ได้กาแฟที่มีครีม่า (Creama) ลอยอยู่ด้านบนดูน่าดื่ม ให้รสชาติและกลิ่นหอมแรงกว่าอเมริกาโน่
เป็นเมนูที่ใช้กรรมวิธีการชงกาแฟสองแบบผสมกัน โดยส่วนแรกได้จากการค่อยๆ เทน้ำร้อนผ่านผงกาแฟที่กรองด้วยกระดาษหรือ “ดริป” มาผสมกับเอสเพรสโซ่ช็อต ทำให้ได้กาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟแบบอ่อนบวกกับกาแฟแบบเข้มข้น
เมนูเอสเพรสโซ่ที่เติมนมอุ่นๆ ลงไปในอัตราส่วนเท่าๆ กัน เพื่อลดความเป็นกรด มีฟองไม่มากนัก เปรียบได้กับลาเต้ที่รสชาติเข้มข้น เป็นที่นิยมในสเปน โปรตุเกส และลาตินอเมริกา
Latte เป็นคำในภาษาอิตาเลียน มีความหมายว่า “นม” เป็นเมนูที่ให้ความหวานมันและนุ่มละมุนของฟองนม ประกอบไปด้วยเอสเพรสโซ่และนมสตีมร้อน หยอดหน้าด้วยโฟมนมหนาประมาณ 1 ซม. นิยมเทให้เกิดลวดลายบนผิวหน้า เรียกว่า “ลาเต้อาร์ต” (Latte Art)
เมนูกาแฟใส่นมที่ให้รสสัมผัสที่นุ่ม สีขาวนวล ให้รสชาติเบาๆ เหมาะกับคอกาแฟที่ไม่ชอบกาแฟรสเข้มข้นนัก ความแตกต่างของลาเต้กับแฟลตไวท์นั้นอาจจะทำเอาหลายคนสับสน กาแฟทั้งสองเมนูนั้นไม่ได้แยกแยะกันที่ปริมาณของนม แต่อยู่ที่ลักษณะของการใช้ฟองนมมากกว่า สังเกตได้ง่ายๆ ว่าแฟลตไวท์จะมีผิวหน้าเรียบต่างจากคาปูชิโน่ที่มีฟองนมอยู่ด้านบน และนิยมเสิร์ฟในแก้วทรงสูงขนาดเล็ก
เมนูกาแฟที่ขายดีที่สุด ดื่มง่าย เข้มข้นกลาง ประกอบไปด้วยเอสเพรสโซ่ นมสตีมร้อน และโฟมนมหนานุ่มในอัตราส่วนเท่าๆ กัน อาจเติมผงโกโก้ ผงซินนามอน หรือช็อคโกแลตขูดด้านบน รวมถึงวาดให้เกิดลวดลายสวยงามได้อีกด้วย
Macchiato เป็นคำในภาษาอิตาเลียน มีความหมายว่า “การสร้างสัญลักษณ์” ประกอบด้วยเอสเพรสโซ่ช็อต หยอดหน้าด้วยฟองนมร้อน จะเห็นเป็นวงสวยงาม ในปัจจุบันมักนำไปใช้กับเมนูอื่นๆ ได้แก่ Latte Macchiato ซึ่งมีฟองนมอยู่บนหน้าอยู่แล้ว จึงถูกหยอดหน้าด้วยเอสเพรสโซ่แทน และ Caramel Macchiato ซึ่งมีส่วนประกอบของนมร้อนผสมคาราเมล จะถูกหยอดหน้าด้วยเอสเพรสโซ่ทับด้วยฟองนม และตกแต่งด้วยคาราเมล ทำให้เห็นเป็นชั้นสีต่างๆ นั่นเอง
เมนูกาแฟสไตล์โปรตุเกส มีความคล้ายกับ Latte และ Cortado ประกอบไปด้วยเอสเพรสโซ่และโฟมนมนุ่มๆ ในอัตราส่วน 1:4 ให้รสชาติกลมกล่อมละมุน นิยมเสิร์ฟในแก้วทรงสูง
เมนูที่หลายๆ คนไม่รู้ว่ามีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนาน ตำนานแพะเต้นรำ จากเรื่องเล่าชุดประวัติศาสตร์กาแฟ เกิดจากการเลียนแบบรสชาติต้นตำหรับของสายพันธุ์กาแฟอาราบิก้าโบราณ แถบเมืองท่า “มอคค่า” ประเทศเยเมน ที่มีความพิเศษของ สี กลิ่น และรสชาติที่คล้ายคลึงกับโกโก้ ทั้งที่ไม่มีโกโก้เข้ามาเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้เป็นที่ต้องการและแพร่หลายไปทั่วโลก
การใช้มอคค่าแท้นั้นมีราคาสูงมาก จึงทำให้เกิดการดัดแปลงนำเอาเอสเพรสโซ่มาผสมกับโกโก้หรือช็อคโกแลต และนม จนกลายเป็นเมนูที่รู้จักกันในปัจจุบัน เสิร์ฟได้ทั้งร้อนและเย็น นิยมปิดหน้าด้วยวิปครีมหนานุ่ม ราดน้ำเชื่อมแต่งกลิ่นต่างๆ เพื่อเพิ่มความหวานหอม
เมนูกาแฟสไตล์อิตาเลียน บางครั้งเรียกว่า “Espresso Affogato” หรือ “กาแฟไอศกรีม” โดยเสิร์ฟเอสเพรสโซ่ช็อตเข้มข้นคู่กับไอศกรีมวานิลลาลูกกลมในถ้วย รับประทานโดยการเทเอสเพรสโซ่ร้อนนั้นลงบนไอศกรีมช้าๆ ครีม่าสีน้ำตาลอ่อนและน้ำกาแฟร้อนจะค่อยๆ ละลายผิวหน้าไอศกรีมเย็น เกิดเป็นฟองครีมล้อมรอบเนื้อไอศกรีม ให้รสสัมผัสหอมหวานนุ่มนวล
เมนูกาแฟนั้นมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละยุคสมัยมาตลอด จะเห็นได้ว่าร้านกาแฟต่างๆ มักมีเมนูชื่อแปลกๆ จำยากให้เห็นอยู่เสมอ แต่ทุกเมนูนั้นล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากเมนูกาแฟดั้งเดิมทั้งสิ้น และไม่ว่าเราจะชื่นชอบในรสชาติไหน จะเข้มข้นแบบเอสเพรสโซ่เพียวๆ หรือนุ่มนวลไปด้วยฟองนม ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราแทบทุกคนล้วนหลงใหลในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกาแฟนั่นเอง
Share